blog สำหรับผู้ที่มีใจรักในการปั้น และโมเดล We lead best toy and pretty model most come to present you.

สวัสดีครับเพื่อนๆวันนี้ผมเอางานปั้นกระปุกออมสินจากดินปันปันมาให้ดูครับ เดี๋ยวมาเริ่มทำกันเลยนะครับ

วัสดุ-อุปกรณ์

  1. ดินปันปัน(punpunclay)
  2. แกนกระดาษแข็ง

ขั้นตอนการปั้น

1.เริ่มปั้นส่วนหัวช้างก่อน เสร็จแล้วร่างส่วนประกอบอื่นคร่าวๆเพื่อให้เรามองเห็นภาพโดยรวมทั้งหมด




2.ปั้นรายละเอียดส่วนที่เหลือ ของขา ลำตัว หาง และงา ใช้เหล็กแหลมขีดตามลำตัว,ขา ในขณะที่ดินยังไม่แห้ง เพื่อให้เกิดลวดลายผิวช้าง


3.ใช้กระดาษแข็งปิดหัวท้าย แล้วแผ่ดินปันปันเป็นแผ่นหุ้มปิดกระดาษอีกที อย่าลืมเจาะรูสำหรับหยอดเหรียญด้วยนะครับ

4.ปั้นต้นไผ่เพื่อเพิ่ม องค์ประกอบภาพ ทำให้ดูแล้วไม่โล่งจนเกินไป


5.เสร็จแล้วขัดตกแต่งผิวด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด แค่นี้เราก็จะได้กระปุกออมสินสวยๆในแบบของเราแล้วครับ สามารถนำไปลงสีตามใจชอบ จะนำไปใช้เองหรือมอบเป็นของขวัญให้เพื่อน ให้คนที่เรารักโดยที่ไม่ซ้ำกับใครด้วย


สวัสดีครับเพื่อนๆ ถ้าใครได้ดูหนังเรื่องเอเลี่ยน VS พรีเดเตอร์ คงจะเห็นความร้ายกาจของพวกฝูงเอเลี่ยนกันแล้ว แต่ผมว่าเอเลี่ยนภาคเเรกๆจะร้ายกาจและฆ่าตายยากมากกว่านี้นะ วันนี้ผมไปเจอข้อมูลวงจรชีวิตเอเลี่ยนในwww.siamzone.comก็เลยเอามาฝากเพื่อนๆครับ

ขั้นที่หนึ่ง : ไข่ (Egg)
เกิดจากการวางไข่ของ ราชินี (Queen) จากส่วนที่เป็นถุงไข่ของมัน ไข่แต่ละใบมีรูปร่างรีและยืดหยุ่นได้ มีความสูงประมาณ 3 ฟุต และมีรอยแยกอยู่ตรงยอดด้านบนสุด ในไข่จะมีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า เฟชฮักเกอร์ (Facehugger) ภายในถุงไข่จะมีสารอาหารซึ่งใช้เลี้ยงสิ่งมีชีวิตในระหว่างช่วงที่ฟักตัว เมื่อไข่สัมผัสได้ว่ามีร่างของสิ่งมีชีวิตใดๆ เข้ามาอยู่ในระยะใกล้เคียง และเหมาะที่จะเป็นร่างที่ใช้อาศัย ฝาที่เปิดปิดได้ด้านบนจะเปิดออก ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตด้านในดีดตัวออกมาเพื่อเกาะติดกับใบหน้าของร่างที่จะใช้อาศัย
ขั้นที่สอง: เฟซฮักเกอร์ (Facehugger)
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเข้ามาใกล้ของร่างที่ใช้อาศัยซึ่งเหมาะสม เฟซฮักเกอร์ เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีผิวเป็นซิลิโคน รูปร่างเหมือนปลาหมึก มีเท้าซึ่งส่วนนิ้วแยกเป็น 8 แฉก ถุงลม 2 ข้าง และงวงที่ยาวเหมือนหาง มันใช้เพื่อเคลื่อนย้ายตัวเองไปสู่ใบหน้าของร่างที่จะเข้าอาศัย เมื่อยึดติดแล้ว เฟซฮักเกอร์จะสอดท่อหรืองวงลงไปสู่โพรงทรวงอกของร่างนั้น และตัดขาดการได้รับออกซิเจนจากภายนอกร่างกาย ทำให้ร่างดังกล่าวต้องอาศัยออกซิเจนจากตัวมัน และจะฝังตัวอ่อนที่เรียกว่า เชซเบิร์สเตอร์ ลงไปในตัวของเหยื่อ
เมื่อจบสิ้นกระบวนการแล้วตัวมันก็นับว่าไม่มีประโยชน์อีกต่อไป มันจะแยกตัวออกจากร่างที่ใช้อาศัยและตายไป ในทางกายภาพ เฟซฮักเกอร์ มีผิวด้านนอกที่เป็นสารซัคคาไรด์โปรตีนจำนวนมาก ซึ่งจะสลัดเซลล์ทิ้งอย่างต่อเนื่อง และแทนที่ด้วยขั้วซิลิโคน ซึ่งทำให้มีความทนทานเป็นอย่างมากต่อการบาดเจ็บและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม นอกจากนี้มันยังมีกรดโมเลกุลเข้มข้นเป็นเลือด ทำให้มีโครงสร้างที่ใช้เป็นเครื่องป้องกันได้เป็นอย่างดี
ขั้นที่สาม: เชซเบิร์สเตอร์ (Chestburster)
ตัวอ่อนที่ถูกฝังไว้ในโพรงทรวงอกของร่างที่ใช้อาศัยโดย เฟซฮักเกอร์ เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จนมีขนาดที่ใหญ่และมีกำลังมากพอที่จะกัดทะลุทรวงอกของร่างที่ใช้อาศัยออกมาได้ และตัวที่รู้จักกันในชื่อของ เชซเบิร์สเตอร์ ก็จะเคลื่อนย้ายตัวมันเองออกมาจากร่างนั้น และหาที่ปลอดภัยเพื่อหลบซ่อนในขณะที่มันกำลังเติบโตขึ้นอีก ในขั้นตอนนี้ การเติบโตของร่างกายของมันจะไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นๆ มันไม่ต้องการอาหารที่จะทำให้ตัวใหญ่ขึ้น แต่จะสร้างเซลล์ทดแทนขึ้นมา (เกือบจะเหมือนกับการลอกคราบของงู) และให้พลังแก่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าภายในตัวเอง (ให้ลองนึกภาพสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒน์จากแบตเตอรี่ โดยใช้กรดเป็นเลือด)
ขั้นที่สี่: เซโนมอร์ฟ (Xenomorph)
สิ่งมีชีวิตที่โตเต็มที่หลังจากที่ได้วิวัฒน์จาก เชซเบิร์สเตอร์ จะมีรูปร่างลักษณะเช่นเดียวกับร่างที่มันใช้เป็นที่อาศัย ดังนั้น หากร่างนั้นเดินสองขา เซโนมอร์ฟ ก็จะเดินสองขา หากร่างเดินสี่ขาหรือมากกว่า เอเลียนที่โตเต็มที่ก็จะเลียนแบบลักษณะเหล่านั้น หากเกิดจากร่างมนุษย์ จะมีความสูงราวแปดถึงเก้าฟุตเมื่อยืนเต็มที่ หัวของมันมีรูปร่างเหมือนโดม และมีโครงกระดูกด้านนอกที่แข็งแกร่ง ซึงประกอบด้วยขั้วซิลิโคน ที่แข็งแกร่งพอในการลำเลียงกรดโมเลกุลที่มันใช้เป็นเลือด ดังนั้นจึงสามารถทนกับการบาดเจ็บอย่างรุนแรงได้ดี (อาวุธที่แหลมคม ยุทโธปกรณ์นิวเคลียร์ และการยิงในระยะใกล้ เป็นที่รู้จักกันว่าจะสามารถทำพวกร้ายมันได้)
เนื่องจากระบบการทำงานภายในของมันไม่ได้ใช้ความดัน และเพราะมันไม่ได้หายใจในแบบทั่วๆ ไป มันทำงานเหมือนแบตเตอรี่มากกว่าการใช้ปอด จึงสามารถรอดชีวิตได้ในสูญญากาศ นอกจากนั้น โครงกระดูกที่อยู่ด้านนอกของมันยังทำให้ไม่สะดุ้งสะเทือนต่อความเย็น จึงแทบไม่ต้องบอกเลยว่า ทุกอย่างที่กล่าวมาทำให้มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายที่สุดเท่าที่เราจะพบได้ในอวกาศ
ขั้นพิเศษ: ราชินี (Queen)
ตัวอ่อนราวหนึ่งในหลายร้อยตัว เชซเบิร์สเตอร์ จะโตขึ้นเพื่อกลายเป็นราชินี ถึงแม้ว่าพวกมันจะเริ่มต้นชีวิตในแบบที่เหมือนกับเชซเบิร์สเตอร์ที่ได้บรรยายไว้ข้างต้น ราชินีจะเติบโตได้มากกว่ากาฝากอื่นๆ และเมื่อยืนเต็มที่จะมีความสูง 15 ถึง 30 ฟุต นอกจากโครงสร้างของกะโหลกที่ขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งดูคล้ายกับไดโนเสาร์พันธุ์ เซราท็อปส์ ราชินียังมีลักษณะที่เป็นพิเศษอีกอย่างหนึ่ง ถุงไข่โปร่งแสงขนาดมหึมา ซึ่งใช้ในการวาง ไข่ จำนวนมาก แม้ว่าจะยังคงไม่มีใครรู้ว่าไข่ถูกผสมพันธุ์หรือไม่และอย่างไร ราชินีจะปกป้องทายาทของมันอย่างสุดชีวิต




















ผมเคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์เซนท์เบอร์นาร์ด เมื่อซัก1ปีที่แล้วชื่อALEX แต่ตอนนี้เขาไปอยู่บนสวรรค์แล้ว สุนัขพันธุ์นี้น่ารักตรงที่หน้าตาเขาจะคล้ายลูกหมา ขี้เล่นและเป็นมิตรกับทุกคน และยังเชื่อว่าสุนัขพันธุ์นี้มีสัมผัสที่6 ถึงขนาดรู้ว่ามีคนโดนหิมะฝังที่ไหน ถ้าใครเคยดูหนังฝรั่งคงจะเคยเห็นสุนัขที่มีถังไวน์เล็กๆห้อยอยู่ที่คอที่คอยช่วยเหลื่อนักสกีที่โดนหิมะถล่มทับน่ะครับ สุนัขพันธุ์นี้เขาจะตัวโตมากจนทำให้หลายๆคนกลัว ข้อเสียอีกข้อก็ตรงที่น้ำลายจะเยอะมากๆนี่ล่ะครับ


ผมปั้นALEXเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความคิดถึงเพื่อนที่ซื่อสัตย์ครับ
วัสดุ-อุปกรณ์
  1. ดินปันปัน
  2. โฟม

ขั้นตอนการปั้น

ขั้นแรกก็ใช้คัตเตอร์แกะโฟมให้เป็นก้อนส่วนหัว1ก้อน และเป็นส่วนของลำตัวอีก1ก้อนจากนั้นก็ทำการปั้นแยกส่วนหัวและส่วนลำตัว โดยปั้นส่วนหัวก่อนให้โฟมเป็นแกนข้างใน ใช้ดินปันปันคลึงเป็นแผ่นนำไปหุ้มก้อนโฟม แล้วปั้นส่วนปาก ตา โหนกคิ้ว และหูครับ ดูว่าส่วนไหนมากเกินก็ใช้คัตเตอร์ตัดทิ้ง ส่วนไหนขาดก็ใช้ดินพอกเพิ่มครับ จากนั้นก็ปั้นลำตัวแล้วนำมาต่อกันโดยอาจใช้ลวดหรือไม้เสียบลูกชิ้นเป็นแกนส่วนคอ พอกด้วยดินปันปัน รอให้ทุกส่วนต่อติดกันดีแล้วก็ปั้นส่วนหาง(สุนัขพันธุ์น้หางจะใหญ่หน่อย) เมื่อถึงขั้นตอนนี้เราจะได้รูปปั้นเป็นรูปสุนัขโล้นๆยังไม่มีขน ขั้นตอนการทำขนแค่เราแผ่ดินเป็นแผ่นบางๆไปติดลงที่ละส่วนใช้นำลูบให้ดินหมาดๆ แล้วจึงใช้เหล็กแหลมหรือไม้จิ้มฟันค่อยๆ ขีดให้เป็นเส้นขนครับ ข้อดีของดินปันปันคือเราไม่ต้องปั้นทีเดียวให้เสร็จเราสามารถปั้นทิ้งเอาไว้ แล้วพอมีเวลาหรือตอนไหนอยากปั้นต่อก็แค่เอานำลูบๆแล้วก็สามารถพอกดินปั้นต่อได้เลย และถ้าต้องการผิวงานที่ละเอียดก็สามารถใช้กระดาษทรายขัดแต่งก็ได้ พอดินแห้งก็แข็งสามารถลงสีได้ทุกชนิด ไม่มีแมลงรบกวนด้วย สำหรับการปั้นสุนัขตัวนี้ถือได้ว่าเป็นรูปปั้นสุนัขตัวแรกของผมครับ รบกวนเพื่อนๆช่วยติชมด้วยครับ

DIN

เริ่มเรื่อง

by DIN | 2/06/2551 10:37:00 ก่อนเที่ยง in | ความคิดเห็น (1)


สวัสดีครับเพื่อนๆทุกคน
ผมนายdinครับ ก่อนหน้านี้เมื่อประมาณซัก8-9ปีที่แล้วผมได้อ่านนิตยสารเล่มหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปั้น ที่เขาเอาตัวละครในหนังเรื่องลอร์ดออฟเดอะริงมาเป็นต้นแบบในการปั้น เห็นครั้งแรกต้องบอกตามตรงครับว่าสุดยอดมากจริง ไม่น่าเชื่อว่าเนี่ยฝีมือคนไทย ทำออกมาได้ดีมาก หลังจากนั้นก็ติดตามอ่านเทคนิคในการปั้น วัสดุที่เค้าใช้ปั้น จนนิตยสารหัวนั้นปิดตัวไป ซึ่งน่าเสียดายมาก
วัสดุที่เขาใช้ปั้นส่วนใหญ่เป็นดินเยื่อกระดาษก้อนนึงตกราคาประมาณ 80-120 บาท แล้วมือใหม่อย่างผมจะกล้าซื้อมาปั้นเหรอครับ แถมไม่ใช่หาซื้อง่ายๆด้วย ผมก็พยายามหาวัสดุอื่นมาทดแทน จนทุกวันนี้ผมมีสูตรลับแล้วครับ ผมเรียกมันว่า ดินปันปัน ผมทำblogนี้ขึ้นมาเพื่อเอาผลงานที่ทำจากดินปันปันมาให้เพื่อนๆดูครับ แต่บอกไว้ก่อนว่าผมปั้นไม่เก่งนะครับ

หมายเหตุ รูปพระพิฆเนศนี้ไม่ใช่ผลงานที่ผมปั้นนะครับ